วันที่ 12 มีนาคม 2568 นายปริเยศ อังกูรกิตต โฆษกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเดินหน้าของนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทจากรัฐบาลภายใต้การนำของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร โดยกล่าวถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่ได้มีผลมากอย่างที่คาดหวัง และย้ำถึงความไม่แน่นอนของนโยบายในหลายๆ ด้าน
นายปริเยศตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของโครงการ โดยระบุว่า แม้ว่าประชาชนจะพึงพอใจจากการแจกเงิน แต่เศรษฐกิจไทยในปี 2567 เติบโตเพียง 2.5% ซึ่งต่ำกว่าความคุ้มค่าของเงินภาษีที่ใช้ไป นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่า โครงการเฟส 3 ที่จำกัดกลุ่มผู้ได้รับสิทธิ์เฉพาะเยาวชนอายุ 16-20 ปี อาจสะท้อนถึงปัญหางบประมาณหรือการปรับลดวงเงินโครงการ ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่าโครงการนี้ดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงกลยุทธ์ทางการเมืองของรัฐบาล
นอกจากนี้ โฆษกพรรคไทยสร้างไทยยังได้แสดงความห่วงใยเกี่ยวกับการใช้เงินจากโครงการที่อาจไปในทางที่ผิด โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่อาจนำเงินไปซื้อสิ่งของไม่เหมาะสม เช่น เหล้าและบุหรี่ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสังคมตามมา
จับตาการเอื้อกลุ่มทุน
นายปริเยศยังตั้งข้อกังวลถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนที่เตรียมออกเหรียญดิจิทัล ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับนโยบายแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาล โดยชี้ว่าอาจมีการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนหรือพวกพ้องมากกว่าการช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง อีกทั้งยังตั้งคำถามว่า โครงการนี้อาจเปิดช่องให้เกิดการฟอกเงินผ่านระบบดิจิทัล หากไม่มีมาตรการกำกับดูแลที่ชัดเจน
โฆษกพรรคไทยสร้างไทยยังเตือนให้สังคมจับตามองอย่างใกล้ชิด และตั้งคำถามว่า การออกเหรียญดิจิทัลจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ หรือจะกลายเป็นช่องทางในการหาผลประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดินที่อาจก่อให้เกิดการตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์ในอนาคต.