วันที่ 9 มกราคม 2568 ตำรวจ สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุปล้นเงินสดของชาวจีน 2 คดี ที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน โดยมีลักษณะคล้ายกัน คือ เหยื่อถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุหลอกให้แลกเงินเป็นเหรียญคริปโต ก่อนฉกเงินสดหลบหนี
เมื่อเวลา 15.55 น. ตำรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุ วิ่งราวทรัพย์เงินสด 5 ล้านบาท ผู้เสียหายเป็นชายชาวจีน ซึ่งได้นัดหมายแลกเงินเป็นเหรียญคริปโตกับกลุ่มผู้ก่อเหตุที่บ้านหลังหนึ่ง ภายใน ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 12 เขตห้วยขวาง
เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว – ผู้เสียหายได้นำเงินสดใส่กระเป๋าสีดำและวางไว้บนโต๊ะ ระหว่างการเจรจา ฝ่ายผู้ก่อเหตุแจ้งว่าได้โอนเงินดิจิทัลให้แล้ว แต่เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบกลับไม่พบธุรกรรมดังกล่าว จึงเกิดการโต้เถียงกัน สุดท้าย กลุ่มคนร้าย 3 คน ฉวยโอกาสคว้ากระเป๋าเงินหลบหนีขึ้นรถตู้อัลพาร์ดสีขาว (ทะเบียน 2 ขล 2233 กทม.) แล้วขับออกไปทางอโศก
ผู้เสียหายพยายามไล่ติดตามโดยใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ แต่ไม่ทัน จึงรีบเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง เบื้องต้นพบว่า ภายในกระเป๋าที่ถูกขโมยมีโทรศัพท์มือถือซึ่งระบุตำแหน่งจีพีเอสล่าสุดอยู่ที่สวนสุขภาพแต้จิ๋ว เขตยานนาวา
เวลาไล่เลี่ยกัน ยังเกิดเหตุลักษณะคล้ายกันที่อาคารแห่งหนึ่งย่าน พระราม 9 โดยผู้เสียหายเป็น ชาวจีน 2 คน ได้นำเงินสด 8 ล้านบาท มาแลกเป็นเหรียญคริปโตกับ ชาวจีนอีก 4 คน
ขณะที่กำลังเจรจา ฝั่งผู้ก่อเหตุแจ้งว่าได้โอนเหรียญคริปโตให้ผู้เสียหายแล้ว แต่ผู้เสียหายตรวจสอบพบว่าไม่ได้รับเงินดิจิทัลดังกล่าว ขณะที่กลุ่มผู้ก่อเหตุยืนยันว่าการโอนเสร็จสิ้นแล้ว จากนั้นจึง ฉวยโอกาสนำเงินสด 8 ล้านบาทหลบหนีไป
หลังตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าผู้ก่อเหตุคือเจ้าของบัญชีคริปโตที่ทำหน้าที่เป็น “คนกลาง” นัดหมายให้ทั้งสองฝ่ายมาเจอกัน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนว่า บุคคลดังกล่าวอาศัยอยู่ในประเทศไทยหรือหลบหนีไปแล้ว
พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานว่า ทั้งสองคดีเป็นเครือข่ายเดียวกัน แต่มีความคล้ายคลึงในรูปแบบการก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิด และวางมาตรการสกัดกั้นไม่ให้หลบหนีออกนอกประเทศ
ตำรวจยังเตือนประชาชนและนักลงทุน ให้ระมัดระวังการแลกเปลี่ยนคริปโตเป็นเงินสดในสถานที่ไม่ปลอดภัย เนื่องจากอาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพที่ใช้ช่องโหว่ของธุรกรรมดิจิทัลในการฉ้อโกงและก่ออาชญากรรม