สกลนคร – นาย สมชาย ฟองอ่อน เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่ถูก “ไอ้ตั้มหมัดหนัก” ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตลงแล้ว หลังแพทย์วินิจฉัยพบกระดูกเบ้าตาขวาแตก เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง และสมองบวม ขณะที่ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่ม “ทำร้ายร่างกายผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานจนถึงแก่ความตาย”
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 ที่วัดแห่งหนึ่งใน ตำบลไร่ อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร โดยมีการจัดแสดงดนตรีรถแห่ และมีชายเสื้อดำรูปร่างสูงใหญ่ ซึ่งต่อมาทราบชื่อคือ นายวัชราวุธ ไชยเพชร หรือ “ไอ้ตั้มหมัดหนัก” อายุ 34 ปี ก่อเหตุทำร้ายร่างกายชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ อปพร. และ ชรบ. อย่างบ้าคลั่ง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บถึง 5 ราย โดย นายสมชาย ฟองอ่อน ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่สุด อยู่ในภาวะสมองตายและต้องรักษาตัวในห้อง ICU
หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านทนไม่ไหว รุมประชาทัณฑ์นายวัชราวุธ ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งหลบหนีไป แต่ต่อมาตำรวจ สภ.พรรณานิคม สามารถติดตามจับกุมตัวได้
วันที่ 5 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย ฟองอ่อน อายุ 44 ปี เสียชีวิตแล้วในเวลา 17.56 น. ของวันที่ 4 มกราคม ที่โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร หลังนอนรักษาตัวในห้อง ICU มาเกือบ 3 วัน โดยแพทย์วินิจฉัยว่าการเสียชีวิตเกิดจาก กระดูกเบ้าตาขวาแตก เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นหนา และสมองบวม
ญาติของนายสมชายเดินทางมารับศพด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะ ลูกสาววัย 10 ขวบ ที่ต้องสูญเสียพ่อไปอย่างไม่มีวันกลับ ครอบครัวได้นำร่างของผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ วัดบ้านไร่ ต.ไร่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร โดยนายสมชายถูกแต่งกายด้วยชุด ชรบ. เพื่อเป็นเกียรติให้กับดวงวิญญาณในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่จนวาระสุดท้าย
เบื้องต้น ตำรวจ สภ.พรรณานิคม ได้แจ้งข้อหาเพิ่ม กับนายวัชราวุธ จากเดิมที่เป็น “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส” เป็น “ทำร้ายร่างกายผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานจนถึงแก่ความตาย” ซึ่งมีโทษหนักขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการชันสูตรจากแพทย์อย่างเป็นทางการก่อนพิจารณาว่าจะมีการแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เรียกร้องให้ตำรวจดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เนื่องจากผู้ต้องหาก่อเหตุอุกอาจในงานรื่นเริงกลางหมู่บ้าน โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
คดีนี้กลายเป็นที่สนใจของประชาชนและสื่อมวลชน เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมรุนแรงและทำร้ายเจ้าหน้าที่ ชรบ. ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่จนเสียชีวิต การเสียชีวิตของ นายสมชาย ฟองอ่อน ทำให้กระแสกดดันจากสังคมเพิ่มขึ้นให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
