28 ก.พ. 2568 – ทางการไทยดำเนินการส่งตัวผู้ต้องกักชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน หลังจากที่จีนได้ทำหนังสือขอตัวพลเมืองของตนกลับ โดยให้เหตุผลว่าเป็นพลเมืองจีนและต้องการให้เดินทางกลับประเทศ
ไทยพยายามหาประเทศที่สามรับตัว แต่ไม่สำเร็จ
ก่อนหน้านี้ ไทยเคยส่งตัวกลุ่มผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็น หญิง เด็ก และคนชรา 109 คน ไปยังตุรกีเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ส่วนกลุ่มที่เหลือ ทางการไทยพยายามประสานหาประเทศที่สามรับตัว แต่ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ไม่มีประเทศใดยินยอมรับ ทำให้ต้องพิจารณาส่งตัวกลับจีน โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ต้องกักจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
ไทยยืนยัน ชาวอุยกูร์สมัครใจเดินทางกลับ
พล.ต.ต.ธนิต เปิดเผยว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ได้รับหนังสือจาก สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้ดำเนินการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน ซึ่งก่อนส่งตัว มีการทำความเข้าใจและรับรองว่าพวกเขาจะได้รับความปลอดภัย ช่วงแรกบางส่วนไม่ยินยอม แต่ภายหลังการชี้แจง ทุกคนยินยอมเดินทางกลับโดยไม่มีการใช้กำลัง
ขั้นตอนการส่งตัวเป็นความลับเพื่อความปลอดภัย
นายจิรายุ เปิดเผยว่า ภารกิจนี้เป็น “ภารกิจลับสุดยอด” และมีความอ่อนไหว หากเปิดเผยข้อมูลหรือใบหน้าผู้ต้องกัก อาจกระทบต่อความปลอดภัยของพวกเขา ซึ่งเป็นเหตุผลที่การส่งตัวต้องทำในช่วงกลางคืนและไม่เปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณะ
จีนให้คำมั่น ดูแลผู้ต้องกักที่เดินทางกลับ
นายฉัตรชัย บางขวด เลขาฯ สมช. ซึ่งอยู่ที่จีน เปิดเผยผ่านวิดีโอคอลว่า ตนได้รอรับผู้ต้องกักที่สนามบิน และยืนยันว่าทุกคน ไม่ได้ถูกพันธนาการ ขณะลงจากเครื่องบิน
ผู้ต้องกักที่มีปัญหาสุขภาพ ถูกส่งไปตรวจร่างกายอย่างละเอียด และบางส่วนถูกพาไปยัง โรงเรียนฝึกสอนอาชีพ ซึ่งมีครอบครัวมารอรับ ทางจีนยืนยันว่าทุกคนจะได้รับการดูแลอย่างดี
ผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ในไทยอีก 5 คน ต้องรอพ้นโทษก่อนส่งกลับ
พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีชาวอุยกูร์ 5 คน ที่ถูกคุมขังในเรือนจำไทย เนื่องจากพยายามหลบหนีออกจากห้องขัง และถูกศาลตัดสินจำคุก 7 ปี มีกำหนดพ้นโทษในปี 2572 หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาส่งตัวกลับเช่นเดียวกัน
รอง ผบ.ตร. ยืนยัน ชาวอุยกูร์เดินทางกลับโดยสมัครใจ
พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. ระบุว่า มีการใช้หนังสือแปลภาษาอุยกูร์เพื่ออธิบายขั้นตอนทั้งหมด ทำให้ทุกคนเข้าใจและยินยอมเดินทางกลับ โดย จากการตรวจร่างกายไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการทำร้าย ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ไทย-จีนย้ำ การส่งตัวครั้งนี้แตกต่างจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์
นายฉัตรชัย ยืนยันว่า การส่งตัวชาวอุยกูร์ครั้งนี้แตกต่างจากการส่งตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยพวกเขา เดินลงจากเครื่องบินปกติ ไม่มีเครื่องพันธนาการ และได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่จีนอย่างเหมาะสม
การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตาม หลักสิทธิมนุษยชน โดยทั้งไทยและจีนยืนยันว่าผู้ต้องกักเดินทางกลับโดยสมัครใจ และจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมต่อไป
