วันที่ 16 มกราคม 2568 – พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เปิดเผยถึงกรณี แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เทคโนโลยี AI ปลอมเสียงบุคคลที่นายกรัฐมนตรีรู้จักเพื่อโทรศัพท์หลอกลวง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและประสานข้อมูลเพิ่มเติม
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้มีฐานปฏิบัติการอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และมีพฤติกรรมหว่านเป้าหมายไปทั่ว โดยใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถหาได้จากระบบออนไลน์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ก่อนหน้านี้เคยมีอดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูงตกเป็นเหยื่อจากกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้ AI ปลอมเสียงลักษณะเดียวกัน
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ ในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่มีเครือข่ายซับซ้อน
ในส่วนของข้อเสนอให้ “ตัดสัญญาณแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากประเทศเพื่อนบ้าน” ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยเสนอไว้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า ได้มีการดำเนินการในระดับหนึ่งแล้ว โดยภาครัฐร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ยังมีอุปสรรคจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยของกลุ่มมิจฉาชีพ ทำให้พวกเขาสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการกระทำผิดได้ตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน ผู้นำรัฐกระเหรี่ยงของเมียนมาได้มีการพูดคุยกับผู้ประกอบการทุนจีนในจังหวัดเมียวดี เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และการค้ามนุษย์ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี นอกจากนี้ ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัลครั้งที่ 5 จะมีการหารือเกี่ยวกับแนวทางปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในระดับภูมิภาค
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้ฝากเตือนประชาชนให้ ระมัดระวังการรับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างว่ารู้จัก และไม่ควรให้ข้อมูลสำคัญผ่านโทรศัพท์โดยไม่ตรวจสอบให้แน่ชัด เนื่องจากเทคโนโลยี AI สามารถเลียนแบบเสียงของบุคคลได้อย่างแนบเนียน หากพบเบาะแสหรือสงสัยว่าเป็นการหลอกลวง สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน สอท. 1441 หรือแจ้งผ่านเพจเฟซบุ๊กของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง