สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ตอนล่างในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม 2567 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะใน 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, ตรัง, สตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส ซึ่งได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 29 ราย และประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใน 538 ตำบล 3,729 หมู่บ้าน จำนวน 664,173 ครัวเรือน
ปัจจุบัน สถานการณ์ในบางพื้นที่เริ่มคลี่คลาย โดยน้ำในหลายแม่น้ำลดลง เช่น แม่น้ำโก-ลกที่อำเภอสุไหงโก-ลกในนราธิวาส, แม่น้ำปัตตานี และคลองท่าดีในพัทลุง แต่บางพื้นที่ยังคงประสบปัญหา เช่น อำเภอเบตงในยะลาที่ถนนทรุดตัวและยังซ่อมไม่ได้ และอำเภอเมืองปัตตานีที่ยังมีน้ำท่วมสูง ทำให้บางหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
ในจังหวัดนครศรีธรรมราชและพัทลุงมีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม 2 ศพ ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดยังคงสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำที่น้ำท่วมซ้ำซาก และการขาดแคลนน้ำและไฟฟ้าในบางพื้นที่
รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 5,000 ล้านบาท เพื่อเยียวยาผู้ประสบภัย โดยให้การช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท พร้อมทั้งขยายงบเยียวยาจาก 20 ล้านเป็น 50 ล้าน เพื่อเร่งฟื้นฟูความเสียหายหลังน้ำลด โดยจะเน้นการเยียวยาด้านสุขภาพจิตใจและความเสียหายอื่นๆ อย่างเร่งด่วน.
