วันที่ 30 ธันวาคม 2567 – กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ได้แถลงความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบิน เจจู แอร์ เที่ยวบิน 7C2216 ที่ประสบอุบัติเหตุไถลออกนอกรันเวย์และชนกับรั้วของท่าอากาศยานนานาชาติมูอันในจังหวัดชอลลาใต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 179 ราย และผู้รอดชีวิตเป็นลูกเรือ 2 ราย
จากการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้พบ กล่องดำ ทั้ง 2 กล่องที่ใช้บันทึกข้อมูลการบินของเครื่องบิน ได้แก่ FDR (Flight Data Recorder) ซึ่งบันทึกข้อมูลต่าง ๆ เช่น ความสูง ความเร็ว และทิศทางการบิน และ CVR (Cockpit Voice Recorder) ซึ่งบันทึกเสียงการสื่อสารในห้องนักบิน รวมถึงเสียงการส่งสัญญาณวิทยุระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งกู้ข้อมูลจากกล่องดำทั้งสอง พบว่า หนึ่งในสองกล่องได้รับความเสียหายหนักบางส่วน ซึ่งอาจส่งผลให้กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลและการหาสาเหตุของอุบัติเหตุต้องล่าช้าออกไปกว่าที่คาดการณ์ไว้
การถอดรหัสกล่องดำ จากเหตุการณ์ทางการบินที่มีความเสียหายร้ายแรงเช่นนี้ปกติจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 เดือนสำหรับการถอดรหัส FDR เพียงอย่างเดียว และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนอาจต้องใช้เวลาหลายเดือน หากข้อมูลจาก CVR สามารถนำมาใช้ได้
รายงานจาก สำนักข่าวยอนฮับ ระบุว่าเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วว่า กล่องดำทั้งสองอาจต้องส่งไปยังคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ (NTSB) ของสหรัฐฯ เพื่อดำเนินการถอดรหัส ซึ่งกระบวนการนี้อาจใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน
ทั้งนี้ กล่องดำ ได้รับการออกแบบมาให้ทนทานต่อแรงกระแทกที่สูงกว่าค่าความโน้มถ่วงของโลกถึง 3,400 เท่า รวมถึงทนต่ออุณหภูมิสูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียส โดยมักจะติดตั้งที่ส่วนท้ายของเครื่องบินเพื่อให้ทนทานต่อความเสียหายจากอุบัติเหตุได้ดีที่สุด
การวิเคราะห์ข้อมูลจาก FDR และ CVR จะเป็นกุญแจสำคัญในการค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ และเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและแม่นยำที่สุดในการสืบสวน.