วันที่ 7 เมษายน 2568 — ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศสุดเศร้าที่จุดเกิดเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม เมื่อครอบครัวแรงงานชาวเมียนมา นำโดย นางสาวเมย์ อายุ 45 ปี ภรรยาของ นายจีต่าง อายุ 46 ปี และมารดาของ นายแทะ อายุ 23 ปี เดินทางข้ามน้ำข้ามเขาจากประเทศเมียนมาใช้เวลาทั้งหมด 8 วัน เพื่อมาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เปิดทางให้พบร่างของสามีและลูกชายที่สูญหายจากเหตุการณ์ถล่มอาคารดังกล่าว
น.ส.เมย์ เปิดเผยด้วยน้ำตาว่า หลังทราบข่าวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ตนตกอยู่ในความเศร้าอย่างหนัก กินไม่ได้นอนไม่หลับ ตัดสินใจออกเดินทางจากเมียนมาในวันที่ 29 มีนาคม พร้อมลูกสาวและน้าสาว โดยอาศัยการเดินเท้า ต่อรถ ข้ามแม่น้ำและภูเขา ใช้เวลากว่า 8 วันกว่าจะถึงที่หมาย เสียค่าใช้จ่ายไปกว่า 15,000 บาท เพื่อมาตามหาคนที่รัก
“วันนี้พอได้มายืนตรงหน้าซากตึกก็แทบเข่าทรุด ไม่รู้ว่าลูกชายกับสามีจะต้องทรมานแค่ไหนที่อยู่ในนั้น… ตอนนี้แค่อยากได้พวกเขากลับคืนมา” เธอกล่าวทั้งน้ำตา
น.ส.เมย์ ยังเล่าว่า เธอและสามีมีลูกด้วยกันสามคน โดย นายแทะ เป็นลูกชายคนเดียว ก่อนเกิดเหตุ เขาเคยบอกว่าจะขยันทำงาน เก็บเงิน แล้วกลับไปอยู่กับแม่ที่บ้านเกิดในเมียนมา แต่กลับเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นเสียก่อน
เมื่อเดินทางมาถึง น.ส.เมย์ ได้นำธูปมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ จุดเกิดเหตุ ขอพรให้พบสามีและลูกชายของเธอ ไม่ว่าจะในสภาพใดก็ตาม
เรื่องราวของเธอสะท้อนถึงความสูญเสียที่ไม่อาจวัดค่าได้ และเป็นอีกหนึ่งเสียงจากครอบครัวแรงงานข้ามชาติ ที่ยังคงรอปาฏิหาริย์ท่ามกลางซากอาคารที่พังทลาย.
