2April,2025
Thailand One News
BYD
Home » สหประชาชาติเตือนการขาดแคลนเวชภัณฑ์เป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา
ข่าว ข่าวด่วน

สหประชาชาติเตือนการขาดแคลนเวชภัณฑ์เป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา

สหประชาชาติเตือนการขาดแคลนเวชภัณฑ์เป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา

สหประชาชาติได้เตือนว่า การขาดแคลนเวชภัณฑ์ทางการแพทย์อย่างรุนแรงกำลังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความพยายามในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเมียนมา โดยระบุว่า ผู้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 1,600 รายทั้งในเมียนมาและประเทศไทย ส่งผลให้สหประชาชาติและองค์กรพันธมิตรด้านมนุษยธรรมได้ระดมความช่วยเหลือฉุกเฉิน โดยสำนักงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ระบุในแถลงการณ์ว่า “ภัยพิบัติครั้งนี้รุนแรงขึ้น ทำให้จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ”

การขาดแคลนเวชภัณฑ์ เช่น ชุดปฐมพยาบาล ถุงบรรจุเลือด ยาสลบ อุปกรณ์ช่วยชีวิต และเต็นท์สำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ส่งผลให้ความพยายามในการช่วยเหลือล่าช้า นอกจากนี้ ถนนและโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่ได้รับความเสียหายก็เป็นอุปสรรคสำคัญในการประสานงานและเข้าถึงพื้นที่ประสบภัย

OCHA ยังกล่าวว่า โรงพยาบาลและสถานพยาบาลในบางพื้นที่ได้รับความเสียหายหนัก หรือถูกทำลายไป ซึ่งทำให้ยากต่อการรับมือกับจำนวนผู้บาดเจ็บที่หลั่งไหลเข้ามา ขณะเดียวกันการหยุดชะงักของโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตก็ทำให้การสื่อสารในการช่วยเหลือมีความซับซ้อนมากขึ้น

ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ขบวนรถบรรทุกสินค้า 17 คันจากประเทศจีน ซึ่งบรรทุกที่พักพิงและเวชภัณฑ์ คาดว่าจะมาถึงในวันนี้ (30 มี.ค.) เพื่อสนับสนุนการบรรเทาทุกข์

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดส่งเวชภัณฑ์เกือบ 3 ตัน รวมทั้งชุดปฐมพยาบาลฉุกเฉินและเต็นท์อเนกประสงค์จากคลังสำรองฉุกเฉินในนครย่างกุ้งไปยังโรงพยาบาลในเมืองมัณฑะเลย์และกรุงเนปิดอว์ เพื่อรักษาผู้บาดเจ็บจากแผ่นดินไหวหลายพันคน

ในขณะเดียวกัน นายเจกัน ชาปาแปอิน เลขาธิการสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) ได้กล่าวว่า คณะทำงานของสภากาชาดในเมียนมากำลังแข่งกับเวลาเพื่อให้การดูแลก่อนถึงโรงพยาบาลและแจกจ่ายสิ่งของสำหรับที่พักพิงฉุกเฉิน

ทั้งนี้ นางมารี แมนริก หัวหน้าคณะผู้แทน IFRC ประจำเมียนมาได้เตือนว่า นอกจากโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายแล้ว บ้านหลายหลังยังพังทลาย จึงจำเป็นต้องวางแผนการช่วยเหลือในระยะยาว โดยเฉพาะในด้านที่อยู่อาศัยให้กับผู้ประสบภัย.

Translate »