28.9 C
Bangkok
2January,2025
Thailand One News
Home » รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย “เอ็ม เอกชาติ” นอนคุกคืนแรก กินอาหารได้ ไม่มีความกังวล แต่สอบถามถึงการเยี่ยมญาติ ยันเรือนจำมีการเฝ้าระวังหลังมีข่าวจะโดนจองกฐิน
ข่าว อาชญากรรม

รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย “เอ็ม เอกชาติ” นอนคุกคืนแรก กินอาหารได้ ไม่มีความกังวล แต่สอบถามถึงการเยี่ยมญาติ ยันเรือนจำมีการเฝ้าระวังหลังมีข่าวจะโดนจองกฐิน

รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย "เอ็ม เอกชาติ" นอนคุกคืนแรก กินอาหารได้ ไม่มีความกังวล แต่สอบถามถึงการเยี่ยมญาติ ยันเรือนจำมีการเฝ้าระวังหลังมีข่าวจะโดนจองกฐิน

นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์, รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ และผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการคุมขัง นายเอ็ม เอกชาติ ผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของ นายธนาคาร คันธี หรือ “แบงค์ เลสเตอร์” อินฟลูเอนเซอร์วัย 27 ปี โดยนายเอ็มได้ถูกส่งตัวเข้าคุมขังที่ ทัณฑสถานหญิงกลาง และกำลังเข้าสู่กระบวนการกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน

นางกนกวรรณกล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2567 เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดจันทบุรีได้รับตัวนายเอ็มหลังจากการตรวจร่างกายและประวัติอาชญากรรม โดยพบว่านายเอ็มมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวใด ๆ และในช่วงแรกของการกักโรค นายเอ็มได้ดื่มนมแลคตาซอย 1 กล่อง และทานอาหารมื้อแรกได้ปกติ โดยเมนูอาหารประกอบด้วย มื้อเช้า ต้มจืดไก่ผักกาดดองเค็ม, มื้อกลางวัน ข้าวต้มหมู และ มื้อเย็น ปลาทอดน้ำพริกกะปิ

นายเอ็มยังไม่ได้แสดงอาการวิตกกังวลใด ๆ ระหว่างการคุมขัง และได้สอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการเยี่ยมญาติ โดยเจ้าหน้าที่ได้อธิบายว่านายเอ็มสามารถพบทนายความผ่าน วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระหว่างการกักโรค 5 วัน และสามารถพบทนายความและเยี่ยมญาติได้ในรูปแบบออนไซต์เมื่อการกักโรคสิ้นสุดลง หากไม่มีปัญหาสุขภาพ

ทั้งนี้นายเอ็มยังไม่ได้ร้องขอสิ่งใดเป็นพิเศษจากเจ้าหน้าที่ ขณะที่ทางเรือนจำได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลความปลอดภัย โดยได้มอบหมายให้ อาสาสมัครเรือนจำ 3 ราย คอยดูแลนายเอ็มในช่วงกักโรค พร้อมมีการติดตั้ง CCTV ในห้องคุมขังเพื่อเฝ้าระวังตลอดเวลา

สำหรับกรณีที่มีข่าวว่า นายเอ็มจะโดนจองกฐิน หรือการเผชิญหน้ากับการคุมขังในสถานการณ์เสี่ยง เจ้าหน้าที่ได้ยืนยันว่าจะมีการดูแลอย่างใกล้ชิด และในกรณีที่จำเป็นอาจมีการแยกตัวนายเอ็มจากผู้ต้องขังคนอื่น ๆ หากพบข้อมูลเพิ่มเติมที่จำเป็นต้องดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวัง

นอกจากนี้ เรือนจำมีมาตรการป้องกันและเฝ้าระวัง ที่เข้มงวดในการจัดการกับผู้ต้องขังที่มีอิทธิพลหรือมีปัญหากับคู่กรณี โดยจะมีการแยกผู้ต้องขังที่เกี่ยวข้องกับคดีเดียวกันหรือคู่กรณีออกจากกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่อาจทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในเรือนจำ.

Translate »