กรุงเทพฯ – เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 มีนาคม 2568 นายวิฑูรย์ เก่งงาน หรือ “ทนายอ๋อง” พร้อมด้วย น.ส.ณัฐจุฑา ปุณณธนาวัฒน์ ตัวแทนจากบริษัทแบรนด์เนม มันนี่ จำกัด เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ร.ต.ท.ธีรภัทร รุ้งรุ่งรัศมี รอง สว.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน ให้ดำเนินคดีอาญากับ น.ส.อริสรา ทองบริสุทธิ์ หรือ “ดิว อริสรา” ข้อหาฉ้อโกง โดยอ้างว่า น.ส.อริสราได้เอาสร้อยคอของผู้อื่นมาขายฝากกับบริษัท ซึ่งเป็นการหลอกลวงว่ามีสร้อยคอเป็นของตัวเอง เพื่อให้ได้เงินสินเชื่อจากบริษัทแบรนด์เนม มันนี่ จำกัด โดยไม่แจ้งข้อมูลที่ถูกต้องและทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย
ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่าการดำเนินคดีในครั้งนี้มาจากการที่ดิว อริสราได้นำสร้อยคอมาเสนอขายฝากกับบริษัท โดยอ้างว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้ได้สินเชื่อ ซึ่งเป็นการหลอกลวงและไม่ได้มีการทำสัญญาตามกฎหมาย จนทำให้บริษัทต้องรับผิดชอบในสินเชื่อจำนวน 7 ล้านบาท ซึ่งเป็นการประเมินตามมูลค่าของสินค้าที่รับฝากในราคามือสอง

ราคาและการคืนสินค้า
ทนายวิฑูรย์ยังกล่าวถึงประเด็นเรื่องการให้ราคาต่ำกว่าราคาจริง ว่าบริษัทประเมินสร้อยคอเป็นสินค้ามือสอง ซึ่งราคาสินค้าจริงๆ น่าจะอยู่ที่ 15 ล้านบาท แต่ทางบริษัทได้ประเมินราคาต่ำกว่าเพื่อให้สามารถนำสินค้าคืนได้ในอนาคต
สำหรับการขอคืนสร้อยนั้น ทนายวิฑูรย์ได้กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเจรจาใดๆ ระหว่างทั้งสองฝ่าย และยืนยันว่า ดิว อริสราควรบินกลับมาประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการเจรจาและทำข้อตกลงร่วมกัน หลังจากออกสื่อเธอไม่ได้ติดต่อกับบริษัทแต่อย่างใด
กระบวนการทางกฎหมาย
ทางบริษัทกล่าวว่าได้ทำการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายทั้งหมด โดยยืนยันว่าไม่มีการรับทราบว่าผลิตภัณฑ์ที่นำมาฝากไม่ใช่ของดิว อริสราจริงๆ และเชื่อว่าการกระทำในครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาหรือความผิดจากฝ่ายบริษัท
คำชี้แจงจากตัวแทนบริษัท
น.ส.ณัฐจุฑา ตัวแทนจากบริษัทกล่าวว่า สร้อยคอที่ถูกฝากนั้นมีเพียงสร้อยและกล่อง ไม่มีใบรับรองหรือใบเซอร์ติฟิเคทมาให้ ซึ่งทางบริษัทประเมินราคาตามสภาพของสินค้าในขณะนั้น โดยไม่ได้ตั้งราคาแบบมือหนึ่ง และจะพิจารณาการคืนสร้อยหลังจากการพูดคุยในกระบวนการทางกฎหมาย
พนักงานสอบสวน
ร.ต.ท.ธีรภัทร รุ้งรุ่งรัศมี รอง สว.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน กล่าวว่าขณะนี้ได้ทำการรับแจ้งความจากตัวแทนบริษัทผู้เสียหายแล้ว และจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อตรวจสอบ หากพบว่ามีมูลความผิดจะออกหมายเรียก น.ส.อริสราให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
การดำเนินคดีในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่าย และคดีอาญาดังกล่าวจะต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายอย่างรอบคอบต่อไป.