วันที่ 14 เมษายน 2568 – ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบช.สอท.1 และ พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ร่วมแถลงข่าวการตั้ง “ชุดไซเบอร์ อาย” เพื่อจับตาและปราบปรามการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ ที่อาจนำไปสู่การก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์
ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ PDPC ได้นำทีม “อีเกิ้ล อาย” ซึ่งเป็นชุดเฉพาะกิจด้านคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มาทำงานร่วมกับ “ไซเบอร์ อาย” ของตำรวจไซเบอร์ โดยเปรียบเสมือน “ตาซ้าย-ตาขวา” ในการสอดส่องความเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์ที่อาจเกี่ยวข้องกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และอาชญากรรมเทคโนโลยี
การดำเนินการครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลัง พ.ร.ก. ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับที่ 2 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา โดยเฉพาะมาตรา 11/2 ที่ระบุความผิดเกี่ยวกับการครอบครอง รวบรวม หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบช.สอท.1 จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดไซเบอร์ อาย และผู้ประสานงานหลักกับทีมอีเกิ้ล อาย ซึ่งจะร่วมกันเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และดำเนินการกับผู้ที่ละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงกลุ่มมิจฉาชีพที่อาศัยข้อมูลดังกล่าวในการก่อเหตุอาชญากรรมออนไลน์
พล.ต.ท.ไตรรงค์เน้นย้ำว่า “ข้อมูลส่วนบุคคลคือทรัพย์สินของประชาชน และหากตกอยู่ในมือคนผิด ย่อมสร้างความเสียหายร้ายแรงได้” พร้อมเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวผ่านช่องทางออนไลน์ และติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานรัฐอย่างใกล้ชิด
