จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวพบพนักงานบริษัทจีนที่รับผิดชอบการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มเมื่อเร็วๆ นี้ กำลังขนเอกสารการก่อสร้างกว่า 20 แฟ้มจากบริเวณที่เกิดเหตุ โดยมีการข้ามกำแพงสถานีกลางบางซื่อเพื่อนำเอกสารเหล่านั้นไปขึ้นรถกระบะขับหลบหนี ซึ่งต่อมาผู้ต้องสงสัยถูกตำรวจสกัดจับได้ และอ้างว่าเอกสารเหล่านั้นจะใช้ในการเคลมประกันภัย แต่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดเอกสารทั้งหมดเพื่อสอบสวนต่อไป
ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นตึกสูง 30 ชั้นที่ถล่มลงมา และเร่งให้ความช่วยเหลือกับคนงานที่ยังคงติดค้างภายในอาคาร
จากการสอบปากคำของตำรวจพบว่า ชายชาวจีนทั้ง 4 คนลักลอบขนเอกสารจำนวน 32 รายการออกจากพื้นที่ที่เกิดเหตุโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตามคำสั่งจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พื้นที่ดังกล่าวได้รับการประกาศให้เป็นเขตพื้นที่สาธารณภัย ซึ่งบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่ได้
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งระบุว่า ผู้ที่เข้าพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีต่อไป หลังจากที่สำนักงานเขตจตุจักรได้ร่างคำร้องเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง 4 คน
การสอบสวนเพิ่มเติมพบว่า เอกสารที่ถูกขนออกจากที่เกิดเหตุเป็นเอกสารเกี่ยวกับการก่อสร้าง ซึ่งรวมถึงเอกสารการขออนุมัติจากผู้รับเหมาและเอกสารทางวิศวกรรม อาจมีความเกี่ยวข้องกับการสืบสวนหาสาเหตุการพังถล่มของอาคาร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่าเอกสารเหล่านี้เกี่ยวข้องกับสาเหตุของเหตุการณ์หรือไม่
ตำรวจได้สั่งการให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุของการพังถล่มของอาคาร และประสานงานกับบริษัทประกันภัยเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำคดีในอนาคต.
