เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2568 ที่ สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี กลุ่ม ปลดแอกชาวสองล้อ นำโดยนาย ภีรสิทธิ์ จิระวงศ์ไพศาล (แอดมินเพจเฟซบุ๊ก ปลดแอกชาวสองล้อ) พร้อมด้วยสมาชิกกลุ่มจำนวน 100 คน รวมตัวติดตามความคืบหน้าคดีที่เกี่ยวข้องกับ นายพีท ผู้ขับรถเก๋งมาสด้าสีแดง ซึ่งได้บีบแตรเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ของ นายจินตการ แก้ววังอ้อ ก่อนที่จะเผยแพร่คลิปดังกล่าวในโลกออนไลน์ ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้สร้างความวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของผู้ขับขี่รถยนต์
กลุ่มปลดแอกชาวสองล้อได้ยื่นหนังสือเปิดผนึก 2 ฉบับที่ สภ.บางศรีเมือง โดยมีข้อเรียกร้องหลักดังนี้:
ข้อเรียกร้องที่ยื่นต่อ ผกก.สภ.บางศรีเมือง:
- เร่งรัดการดำเนินคดีที่มีการแจ้งความไว้ รวมถึงคดีที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมให้ถึงที่สุด
- ยึดใบอนุญาตขับขี่ของผู้ก่อเหตุเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน
- กำหนดมาตรการป้องกันการก่อเหตุจากผู้ก่อเหตุและผู้ที่อาจจะเลียนแบบพฤติกรรมที่สร้างความอันตราย
ข้อเรียกร้องที่ยื่นต่อผู้ขับรถเก๋งมาสด้าแดง:
- ออกมาแสดงตนเพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหาย
- หยุดการขับขี่รถทุกประเภทจนกว่าจะมีคำตัดสินจากศาล
- ยุติการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่สร้างความอันตรายและความแตกแยก
- ออกมาทักท้วงผู้ที่คิดจะเลียนแบบพฤติกรรมการขับขี่ที่เป็นอันตราย
จากการหารือกับ พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง ทราบว่า นายพีท ถูกดำเนินคดีในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ แต่ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการในข้อหาอื่นๆ หากพบว่ามีพยานหลักฐานที่เพียงพอในอนาคต
ในส่วนของการขอให้ยึดใบขับขี่ของผู้ก่อเหตุ ผกก.แจ้งธรรมา แจ้งว่าไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ แต่เป็นอำนาจของกรมขนส่งทางบก ซึ่งหมายความว่าผู้ก่อเหตุยังสามารถขับรถได้ตามปกติ
ความไม่พอใจของกลุ่มปลดแอก:
นายภีรสิทธิ์ แสดงความคิดเห็นว่า เขาไม่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุจะหยุดพฤติกรรมขับขี่หวาดเสียว เพราะก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุเคยรับปากว่าจะโพสต์ขอโทษ แต่กลับไม่ทำตามคำพูด นอกจากนี้ยังรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้เจอกับผู้ก่อเหตุในวันนี้ เนื่องจากสมาชิกในกลุ่มต้องการจะเจอเขาเพื่อพูดคุยและให้เขารับผิดชอบ
ด้านความคิดเห็นของ นายอริยะพงษ์ เจริญสุข เจ้าของเพจ จอห์นไรเดอร์:
นายอริยะพงษ์กล่าวว่า การดำเนินคดีในเรื่องนี้ช้าเกินไป เพราะถึงแม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะชี้แจงว่ากำลังรวบรวมหลักฐานและเรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำ แต่ในมุมมองของผู้ใช้ถนนทั่วไป ซึ่งต้องเผชิญกับพฤติกรรมขับขี่ที่อันตรายของผู้ก่อเหตุ ก็รู้สึกว่าการดำเนินคดีช้าเกินไป โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกรณีอื่นๆ ที่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างรวดเร็ว
การดำเนินการในคดีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพิจารณาว่าจะมีการดำเนินคดีในข้อหามากกว่าการทำให้เสียทรัพย์หรือไม่.
