จากเหตุการณ์ที่ชาล็อต ออสติน นางงามสาวชื่อดัง ถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินจำนวน 4 ล้านบาท เมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดได้รับข่าวดีว่าหนึ่งในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถูกจับกุมแล้ว และเจ้าหน้าที่กำลังขยายผลเพื่อติดตามขบวนการเพิ่มเติม
ในการสัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ชาล็อต และ บอส ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ได้เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ โดยทั้งคู่ระบุว่า “คนที่ถูกจับไม่ใช่แค่บัญชีม้า แต่เป็นผู้ที่ทำงานร่วมกันกับขบวนการนี้ มีการเข้าออกประเทศเพื่อนบ้านหลายรอบ” ซึ่งในความรู้สึกของชาล็อตและบอส มองว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการโดยตรง
ชาล็อตและบอสกล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะขยายผลไปยังเคสอื่นๆ และอาจจะนำไปสู่การแกะรอยมิจฉาชีพได้ถึง เกือบร้อยเคส และพวกเขาก็ยังมีความหวังว่าจะสามารถได้ส่วนหนึ่งของเงินคืนถึงแม้จะไม่รู้ว่าจะครบเต็มจำนวนหรือไม่ เนื่องจากมิจฉาชีพได้เปลี่ยนสกุลเงินแล้ว
ทั้งสองยังกล่าวถึงการร่วมมือกับองค์กรที่รับเปลี่ยนเงินสดเป็นอิเล็กทรอนิกส์ และมีการเตือนให้รับผิดชอบและคืนเงินให้ผู้เสียหาย หากไม่มีการดำเนินการจนถึงวันที่ 10 ธันวาคมนี้ บอสณวัฒน์ก็จะเปิดเผยชื่อของสถาบันที่เกี่ยวข้องพร้อมหลักฐาน
นอกจากนี้ บอสยังเตรียมฟ้องธนาคารแห่งหนึ่งเกี่ยวกับแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงนี้ ซึ่งเชื่อว่าอย่างน้อยธนาคารต้องรับผิดชอบ 50% ของค่าเสียหาย โดยได้มีการลงโทษธนาคารในหลายๆ กรณีแล้ว แต่ไม่เปิดเผยเป็นข่าว เพื่อหลีกเลี่ยงให้ทุกคนมาทำการฟ้องร้อง
ทั้งชาล็อตและบอสยังแนะนำให้ประชาชนระมัดระวังการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ เช่น การหลอกลวงผ่าน SMS โดยเตือนว่าไม่ควรกดลิงก์หรือทำธุรกรรมที่ไม่มั่นใจ
ชาล็อตยืนยันว่าแม้จะรู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัยตัวเอง แต่ก็จะสู้และขอให้ผู้เสียหายรายอื่นได้รับเงินคืนเช่นกัน และขอให้ลงโทษผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้มีคนต้องตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป.
