กองบัญชาการกองทัพซีเรียได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดได้สิ้นสุดลงแล้ว หลังจากการโจมตีอย่างรวดเร็วของกลุ่มกบฏ ซึ่งกล่าวว่า “กรุงดามัสกัสปลอดจากอัสซาดแล้ว” กลุ่มกบฏได้เข้าควบคุมเมืองหลวงได้สำเร็จ และประชาชนจำนวนมากได้รวมตัวกันในจัตุรัสกลางของดามัสกัสเพื่อเฉลิมฉลองการสิ้นสุดของยุคอัสซาด โดยตะโกนว่า “เสรีภาพ”
ตามรายงานจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพซีเรีย นายอัสซาดได้บินออกจากดามัสกัสไปยังจุดหมายปลายทางที่ไม่ทราบแน่ชัด ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ Flightradar พบว่าเครื่องบินของสายการบินซีเรียนแอร์ได้ขึ้นบินจากสนามบินดามัสกัสในช่วงเวลาที่มีรายงานว่ากลุ่มกบฏยึดเมืองหลวง
ฮาดี อัล-บาห์รา ผู้นำกลุ่มฝ่ายค้านในต่างประเทศประกาศว่า “กรุงดามัสกัสไม่มีบาชาร์ อัล-อัสซาด” แล้ว ในขณะเดียวกันกลุ่มกบฏยังสามารถยึดเมืองฮอมส์ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเมืองที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ของซีเรีย การยึดฮอมส์ทำให้กลุ่มกบฏสามารถแยกกรุงดามัสกัสออกจากพื้นที่ชายฝั่งที่เป็นฐานที่มั่นของนิกายอลาวีของนายอัสซาด
เหตุการณ์นี้ทำให้หลายประเทศในตะวันออกกลางและทั่วโลกตื่นตระหนกเกี่ยวกับความไม่มั่นคงในภูมิภาค และได้ออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้มีการแก้ไขทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศเช่น กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย, จอร์แดน, อียิปต์, อิหร่าน, ตุรกี และรัสเซีย
สงครามกลางเมืองในซีเรีย ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2011 ได้ดึงดูดการแทรกแซงจากมหาอำนาจต่าง ๆ รวมถึงรัสเซียและอิหร่านที่ได้สนับสนุนรัฐบาลอัสซาด ในขณะที่กลุ่มกบฏได้รับการสนับสนุนจากบางประเทศและกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงอนาคตของซีเรีย
ในด้านอื่น ๆ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวว่าประเทศสหรัฐฯ ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามในซีเรียและปล่อยให้ความขัดแย้งดำเนินต่อไป.
