วันที่ 25 มกราคม 2568 – นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย และประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลกระจายความสนใจแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ไปยังจังหวัดอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบไม่แพ้กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของนโยบาย “รถเมล์-รถไฟฟ้าฟรี 7 วัน”
นายกรวีร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า แม้การเปิดให้ประชาชนใน กทม. ใช้บริการรถเมล์และรถไฟฟ้าฟรีเป็นเวลา 7 วัน จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและสนับสนุนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ แต่ถามว่ามาตรการนี้สามารถแก้ปัญหา PM 2.5 ได้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะหากผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวยังไม่ลดการใช้รถและหันมาใช้ขนส่งสาธารณะ
นายกรวีร์ตั้งข้อสงสัยถึงการใช้งบกลาง 140 ล้านบาท หรือประมาณวันละ 20 ล้านบาท ในการดำเนินมาตรการดังกล่าว โดยชี้ว่างบประมาณนี้มาจากภาษีของประชาชนทั่วประเทศ แต่กลับนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะใน กทม. ในขณะที่จังหวัดอื่น ๆ ที่เผชิญปัญหา PM 2.5 หนักหน่วง เช่น อ่างทอง, อยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, อุดรธานี, ขอนแก่น, ชลบุรี และเชียงใหม่ กลับไม่ได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม
นายกรวีร์ระบุว่า จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนเอง ติดอันดับพื้นที่ที่มีฝุ่น PM 2.5 สูงสุดในประเทศต่อเนื่องมาหลายวัน เช่นเดียวกับอีกหลายจังหวัดที่ประชาชนกำลังเผชิญปัญหาเดียวกัน แต่กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือในระดับเดียวกับ กทม. พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลกระจายงบประมาณและมาตรการแก้ไขปัญหาไปยังพื้นที่อื่น ๆ อย่างเท่าเทียม
“การเอาภาษีจากคนไทยทั้งประเทศมาแก้ปัญหาเฉพาะใน กทม. เราต้องถามว่า ผู้ได้รับประโยชน์จริง ๆ คือประชาชนหรือเอกชนกันแน่? รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ที่ประสบปัญหา ไม่ใช่แค่เมืองหลวง” นายกรวีร์กล่าว
ทั้งนี้ นายกรวีร์ยังสนับสนุนแนวทางอื่น ๆ เช่น การส่งเสริม Work From Home (WFH) หรือมาตรการที่สามารถลดการเดินทางและการปล่อยมลพิษจากต้นตอได้จริง ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหา PM 2.5 อย่างยั่งยืนในระยะยาว.